อ่านนิทานให้เด็กฟัง เพิ่มพลัง EF
อ่านนิทานให้เด็กฟัง เพิ่มพลัง EF
กิจกรรมนี้ง่ายมาก สำหรับคุณพ่อคุณแม่ แค่ให้ลูกนั่งตัก อ่านหนังสือให้ลูกฟัง พูดคุย ร้องเพลง และเล่นไปกับคำหรือเรื่องราวในหนังสือเท่านั้นเอง ส่วนคุณครู ควรต้องอ่านนิทานให้เด็กฟังทุกวัน อ่านชัดถ้อยชัดคำ ใส่หัวใจและจิตวิญญาณลงไปในถ้อยคำที่อ่าน ก็จะช่วยสะกดเด็กในห้องที่มีหลายคนเอาไว้ได้
ในขณะที่มีผู้ใหญ่อ่านหนังสือให้ฟังนั้น สมองทุกส่วนของเด็กจะได้รับการพัฒนา ที่สำคัญที่สุด นิสัยรักการอ่าน ต้องเกิดก่อนที่เด็กจะอ่านออก เพราะเมื่อเด็กอยากอ่านจะอ่านหนังสือได้เองโดยไม่ต้องพยายามมากนัก การอ่านนิทานให้เด็กฟังในช่วงแรกเกิดถึง 3 ปีเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างทักษะการอ่านเริ่มแรก ( Pre-reading Skills) ซึ่งจะเป็นพื้นฐานกระบวนการอ่านในระยะถัดไป
แม้ในช่วงแรกเด็กจะยังไม่เข้าใจเนื้อหาที่พ่อแม่อ่านให้ฟัง แต่เด็กจะหยุดนิ่งฟังเสียง หันมองภาพในหนังสือ เริ่มแยกแยะเสียงต่างๆที่ได้ยิน ได้เห็นแม่ชี้นิ้วไปตามตัวหนังสือและภาพ เห็นการเปลี่ยนหน้ากระดาษ เกิดการเรียนรู้ว่าต้องเปิดหนังสือจากซ้ายไปขวา ต้องอ่านจากบนลงล่าง
เมื่อหนังสือมาพร้อมความรัก เด็กจะรักหนังสือได้ไม่ยาก แต่เรื่องอื่นใดก็ไม่สำคัญเท่ากับสายใยผูกพันของแม่กับลูก และของครูกับเด็ก
หลังจากอ่านจบทุกครั้ง สามารถชวนเด็กคุยเกี่ยวกับเรื่องด้วยการตั้งคำถาม
- ในเรื่องนี้มีตัวอะไรบ้าง (ตัวละคร)
- เขาอยู่ที่ไหนกัน (ฉาก)
- เรื่องเป็นอย่างไร ไล่เรียงลำดับมา (โครงเรื่อง)
- เรื่องนี้จะบอกอะไรกับเรา ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ถ้าไม่ทำอย่างนี้จะเป็นอย่างไร (แก่นเรื่อง)
ทั้ง 4 ประเด็นนี้คือประเด็นหลักในการอ่านบันเทิงคดี ซึ่งสามารถขยายไปสู่การเชื่อมโยงเข้ากับตัวเด็กได้ด้วย เช่น ถ้าเป็นหนู หนูจะทำอย่างนั้นไหม หนูชอบตัวละครตัวไหน เราไปลองทำแบบในหนังสือกันไหม หนูเคยเห็นสิ่งที่อยู่ในหนังสือไหม เราจะไปดูของจริงได้ที่ไหน หากเด็กได้รับการฝึกฝนเช่นนี้มาตั้งแต่เล็กๆ เด็กจะมีฐานของการ “อ่านเป็น” ที่จะควบคู่มากับการ “อ่านได้”
ทักษะ EF หรือ Executive Functions ทักษะการบริหารจัดการตนเองขั้นสูง เป็นกระบวนการทางความคิดระดับสูงของสมองส่วนหน้าที่มีความเกี่ยวข้องกับความคิด ความรู้สึก และการกระทำ เป็นทักษะที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จในชีวิต
กิจกรรมการอ่าน ช่วยพัฒนาทักษะ EF ของเด็กได้อย่างไร
ด้านการจำเพื่อใช้งาน - เด็กจะเชื่อมโยงสิ่งที่มีอยู่จริงในชีวิตเข้ากับคำและภาพในหนังสือ คำที่ได้ยิน ภาพที่เห็น จะกลายเป็นฐานข้อมูลให้นำไปใช้
ด้านการยั้งคิดไตร่ตรอง – การพูดคุย การตั้งคำถามหลังจากที่อ่านนิทานด้วยกันจะช่วยสร้างทักษะนี้ได้ดีมาก
ด้านการยืดหยุ่นความคิด – การกระทำบางอย่างแก้ไขได้โดยการอ่านนิทานให้ลูกฟัง เพราะเด็กได้เห็นตัวแบบที่ดีจากนิทาน รวมทั้งได้มุมมองใหม่ๆ
ด้านการจดจ่อใส่ใจ – อ่านนิทานทุกครั้ง ฝึกการจดจ่อใส่ใจ ดูและฟังจนจบ
ด้านการควบคุมอารมณ์ – เด็กหลายคนสงบอารมณ์ไม่ดีลงได้เมื่อผู้ใหญ่อ่านนิทานให้ฟัง และ ตัวละครในนิทานจะเป็นตัวแบบในการแสดงอารมณ์ที่เหมาะสมได้
ด้านการติดตามประเมินตนเอง – การเชื่อมโยงเรื่องราวในนิทานเข้ากับประสบการณ์จริงหรือชีวิตของเด็กจะช่วยเด็กสร้างทักษะการประเมินตนเองได้
ด้านการริเริ่มลงมือทำ – ฟังนิทานจบ เปิดหนังสือดูเองจบ คือ จุดเริ่มต้นของการลงมือทำสำเร็จ หากได้ทำกิจกรรมแบบที่ปรากฏในนิทาน ยิ่งช่วยพัฒนาทักษะนี้ได้มากขึ้น
ด้านการวางแผนจัดระบบ – ฟังนิทานจบแล้วได้ฝึกเรียงลำดับตามโครงเรื่อง รู้ว่าอะไรเกิดก่อนเกิดหลัง ทักษะการวางแผนจัดระบบเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ด้านการมุ่งเป้าหมาย – ฟังนิทานจบ เปิดหนังสือดูเองจบ คือ จุดเริ่มต้นของการทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ