ความรักอันยิ่งใหญ่ของคุณจระเข้กับคุณยีราฟ

เรื่องราวของคุณจระข้และคุณยีราฟไม่ได้เริ่มต้นในหนังสือเล่มนี้  หากแต่ต่อเนื่องมาจากหนังสือเล่มที่มีชื่อว่าคุณจระเข้กับความรักอันยิ่งใหญ่  ยิ้มหวานหยาดเยิ้มที่คุณจระเข้มีให้กับคุณยีราฟในหนังสือเล่มนั้น  เป็นเรื่องราวตอนต่อมาของหนังสือเล่มนี้ 

.

คุณยีราฟตัวสูงมาก  ในขณะที่คุณจระเข้ตัวเตี้ยมาก   เมื่อทั้งสองย้ายมาอยู่ด้วยกัน จึงมีเรื่องยากลำบาก  เมื่ออยู่ในบ้านของคุณจระเข้ที่หลังเล็กมาก  คุณยีราฟชนนั่นชนนี่ไปทั่ว  แต่พอย้ายมาอยู่ที่บ้านของคุณยีราฟ  คุณจระเข้ก็มีความยุ่งยากกับของใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ บันได ชักโครก  หรือแม้แต่การตากผ้า  ที่แห่งเดียวที่ไม่ยุ่งยากและเป็นที่ที่แก้ปัญหาให้ทั้งคู่คือบนเตียงนอนซึ่งเป็นที่ที่ทั้งสองได้ส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้กัน  ในที่สุดพวกเขาก็ช่วยกันคิดและสร้างโครงการใหญ่ขึ้นมา นั่นคือ  สระน้ำ 

.

ในสระน้ำ ทั้งสองได้มองตากัน และส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้กัน  ความยุ่งยากทั้งหมดก็มลายหายไปในพริบตา

.

ความแตกต่างเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตของคุณจระข้กับคุณยีราฟ   แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่และไม่ใช้คำว่า “ปัญหา” เลย  แต่ใช้คำว่า “ความยากลำบาก ความยุ่งยาก” แทน  มุมมองเชิงบวกมราเราใช้มองเหตุการณ์ต่าง ๆ จึงเป็นเรื่องแรกก่อนที่จะนำพาไปสู่การมีกำลังใจเพื่อใช้สติปัญญาในการบริหารจัดการ  

.

เมื่อการอยู่ร่วมกันช่างยากลำบาก  และก็มีบางช่วงที่คุณจระเข้กับคุณยีราฟรู้สึกว่าไปกันไม่ได้   แต่  Empathy นี่เองที่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ทั้งสองยังอยู่เคียงข้างกัน  และช่วยกันคลายความยากลำบากทั้งหมด  เราจึงเห็นภาพคุณจระเข้กอดคุณยีราฟเชิงปลอบใจเมื่อคอคุณยีราฟยื่นออกไปนอกบ้าน  ส่วนคุณยีราฟเองก็กินข้าวไม่เป็นสุขเพราะห่วงใยคุณจระเข้ที่นั่งเก้าอี้อยู่ต่ำกว่าชนิดที่ไม่มีทางมองตากันได้   

.

Empathy คือ ความสามารถในการเข้าใจผู้อื่นว่ารู้สึกอย่างไร เป็นการผสมผสานกันระหว่างสติปัญญาและอารมณ์ที่มนุษย์ทุกคนน่าจะมีติดตัวมาตั้งแต่แรกเกิด  เราทุกคนล้วนมีแนวโน้มที่จะมีความเข้าใจผู้อื่นและสามารถพัฒนาได้ตลอดชีวิตโดยผ่านการเรียนรู้ประสบการณ์ต่าง ๆ ซึ่งไม่สามารถเกิดขึ้นจากการสั่งสอนได้  เช่นเดียวกับที่  Mary Gordon ผู้ก่อตั้ง Roots of Empathy กล่าวว่า  Empathy is caught, not taught.

.

มีข้อมูลทางวิชาการที่กล่าวว่าเซลล์กระจกเงาในสมองสามารถทำให้ทารกอายุ 18 ชั่วโมงร้องไห้ตามเด็กคนอื่นที่กำลังร้องไห้ได้  ซึ่งแสดงว่าเด็กทารกสามารถรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น ความสามารถนี้จะก่อตัวเชื่อมโยงกับคุณภาพความผูกพันของเด็กกับผู้เลี้ยงดูในช่วงขวบปีแรก  และเริ่มพัฒนาขึ้นเมื่อเด็กเข้าสู่สังคมที่กว้างขึ้น เช่น เด็กสองขวบเห็นเพื่อนร้องไห้ก็วิ่งไปหาแม่  เพราะรู้ว่าในอารมณ์นี้ต้องการคนปลอบ  แต่เหล่านี้ก็เป็นเพียงความสามารถด้านอารมณ์เท่านั้น  การเชื่อมโยงความสามารถด้านอารมณ์กับสติปัญญาเข้าด้วยกันจะเริ่มแจ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อสั่งสมและพัฒนามานานขึ้น  เราจึงเห็นเด็กสี่ห้าขวบแสดงออกถึงการรับรู้มุมมองของผู้อื่นและเสนอทางแก้ปัญหาให้คนอื่น  เช่น  แบ่งของเล่นให้  พูดปลอบใจ

.

Empathy จึงไม่ใช่แค่การเห็นว่าคนอื่นกำลังรู้สึกอย่างไร แต่เป็นการเข้าไปนั่งในหัวใจของเขาด้วย

.

หนังสือเล่มนี้ก็เช่นกัน เมื่ออ่านให้เด็กอนุบาลฟัง  ความยุ่งยากของคุณยีราฟกับคุณจระเข้จึงกลายเป็นความยุ่งยากของเด็กด้วย  สีหน้าของเด็ก ๆ ที่แสดงถึงกังวลกับความยากลำบากของตัวละคร  ไปจนถึงแววตาเป็นประกายวิบวับเมื่อได้ช่วยคิดวิธีแก้ปัญหา  และรอยยิ้มที่ปรากฏเมื่อรู้ว่าความยุ่งยากทั้งหมดมลายไปด้วยวิธีใด  ล้วนเป็นการแสดงออกถึงการเชื่อมโยงความสามารถทางอารมณ์และสติปัญญา 

.

Empathy ในเด็กเล็กเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างคนคนหนึ่ง  เพราะเรื่องเล็ก ๆ ของเด็กอย่างความแตกต่างของคุณจระเข้กับคุณยีราฟในหนังสือเล่มนี้  จะขยับไปเป็นเรื่องใหญ่และซับซ้อนขึ้นเมื่อโตขึ้น   ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติกับคนใกล้ตัว  หรือแม้แต่มุมมองที่มีต่อความแตกต่างทางกายภาพ เพศ เชื้อชาติ สีผิว ความคิด และความแตกต่างอันมากมายของมนุษย์ในโลกใบใหญ่ 

.

 

และเพราะเหตุนี้เอง“ความรักอันยิ่งใหญ่ของคุณจระเข้กับคุณยีราฟ” จึงเป็น “เล่มนี้ที่รัก”


  • ไม่รู้ว่าหลงรักความรู้สึก "เหมือนไม่เคยทำงานมาก่อน" ไปตั้งแต่เมื่อไร ความรู้สึกนี้สร้างความตื่นเต้นและสร้างพลังได้ดี แม้จะมีความกังวลซุกซ่อนอยู่ก็ตาม อันที่จริงงานทุกงานเหมือนกัน แ...

  • “เธอสร้างสวนขึ้นมาใหม่ได้” แม่บอกเม ประโยคนี้คือจุดเริ่มต้นของหนังสือเล่มนี้ และเป็นตัวกำหนดตอนจบของเรื่องด้วย ถ้าแม่ไม่พูดอย่างนี้ จะไม่มีเรื่องราวต่อจากนั้นอีกเลย เพราะเมคงจะเดิ...

  • คุณสิงโตช่วยนกน้อยที่บาดเจ็บไว้ พวกเขาผ่านฤดูหนาวด้วยกันไปทีละวัน เมื่อถึงฤดูร้อน นกน้อยก็จากไปพร้อมกับฝูง คุณสิงโตใช้ชีวิตผ่านฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงไปเพียงลำพังด้วยความเข้าใจ จนถึ...

  • เมื่อติดแหง็กอยู่ที่ไหนสักแห่ง ติดแหง็กอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ติกแหง็กแม้แต่ในความคิด จะทำอย่างไร . หนังสือเล่มนี้เริ่มต้นที่บอยทำว่าวลอยไปติดบนต้นไม้ เขาพยายามดึงแล...

  • แพนด้ากับเพนกวินรู้สึกว่าโซฟาที่นั่งอยู่เก่าเกินไป พวกเขาช่วยกันหาโซฟาและทดลองนั่งดู แต่ก็ไม่ได้โซฟาที่ถูกใจสักที ในที่สุดพวกเขาก็พากันกลับบ้านและซ่อมโซฟาตัวเดิม ซึ่งดูเหมือนจะเป็น...

  • เรื่องของน้องหมีแต่งตัวมีอยู่แค่ว่าน้องหมีทดลองแต่งตัว ใส่เสื้อ กางเกง รองเท้า และหมวก ใส่เสร็จแล้วก็ไปเที่ยว แค่นั้น...จบ . จบแค่นี้ แต่เป็นเล่มที่รักมากและรักมานานมากเล่มหนึ่ง อั...

  • “กุญแจเปิดบ้านหลังน้อย บ้านหลังน้อยเรืองแสงไฟ ใต้แสงไฟเห็นเตียงนอน บนเตียงนอนมีหนังสือ ในหนังสือนกโบยบิน นกโบยบินขับขานเพลง เพลงดวงดาวยามค่ำคืน” . คำไม่กี่คำในแต่ละหน้าที่ดำเนินไปอ...

  • แม้แซมสันจะเป็นสล็อตที่เชื่องช้า แต่เขาก็ชอบที่จะทำให้คนอื่นมีความสุข ความเชื่องช้าของเขาทำให้ไปงานเลี้ยงไม่เคยทัน เพราะมัวแต่ช่วยคนอื่นอยู่ จนกระทั่งวันหนึ่งแซมสันรู้สึกว่าอยากไปง...

  • เรื่องราวเริ่มต้นที่ความรักในหัวใจของคุณจระเข้ เขาหนาวจนตัวสั่นทั้งที่อากาศน่าจะร้อน เพราะเขาอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่กำลังบานสะพรั่งและคุณยีราฟที่เขาหลงรักก็แช่ตัวอยู่ในน้ำ บางวัน...

  • ครอบครัวธรรมดาที่ไม่ธรรมดา . นี่คือตอนต่อมาของคุณจระเข้กับคุณยีราฟ คู่รักที่มีรูปร่างแตกต่างแต่มีลูกด้วยกัน ลูกสาวเป็นจระเข้ที่มีสีและลายเหมือนยีราฟ ส่วนลูกชายเป็นยีราฟที่มีสีเหมือ...

  • แด่ผู้เยียวยาหัวใจในยามที่สงครามมาเยือน . วันที่สงครามมาเยือน บ้านที่เคยสุข โรงเรียนที่เคยสงบก็เปลี่ยนแปลงไป สงครามทลายเมืองทั้งเมืองจนเป็นซากปรักหักพัง สงครามพรากทุกสิ่ง สงครามพรา...

  • “พอเธอไม่อยู่ ฉันรู้สึกว่าบ้านไม่เหมือนบ้านอีกเลย” คุณเป็ดพูดกับคุณกบเมื่อทั้งสองได้พบกันอีกครั้ง . ก่อนหน้านั้น คุณเป็ดผู้ซึ่งไม่ชอบเปียกได้พบกับคุณกบในวันที่พายุกระหน่ำจนหลังคาบ้...
Visitors: 32,127